บ้านนอกวิถีชนบท วิถีแห่งความสุข คงไม่มีใครกล้าเถียง การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย อยู่กับธรรมชาติ เป็นชีวิตที่ใครๆก็อยากจะมีแต่บางทีมันก็หาไม่ได้
บ้านนอกวิถีชนบท ถ้าเป็นเมื่อก่อน คำนี้เป็นคำที่เจ็บปวดมาก สำหรับเด็กคนนึงที่จากบ้านนามา เพื่อหวังที่จะหาเงินส่งให้ทางบ้านได้ใช้จ่าย แต่ปัจจุบันนี้บ้านนอก ถือเป็นที่ที่ใครๆก็ต้องอิจฉา ด้วยหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไป ทำให้บ้านนอกเป็นสถานที่ที่ใครก็อยากไปสัมผัส ดูจากวันหยุดยาว เมืองหลวงแทบจะเป็นเมืองร้างเลยทีเดียวเชียว
การใช้ชีวิตกับธรรมชาติ ปัจจุบันเป็นชีวิตที่ใครหลายๆคนใฝ่ฝัน เนื่องจากชีวิตในเมืองเริ่มเป็นชีวิตที่ยุ่งยาก ปัญหารถติด ปัญหาค่าครองชีพ ปัญหาสินค้าแพง และปัญหารอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ทำให้หลายๆคนพาครอบครัวย้ายที่อยู่จากในเมืองสู่ชนบท
พื้นที่เล็กๆก็สุขใจ เพราะที่สุดของชีวิต ไม่ได้ต้องการทรัพย์สินเงินทอง การมีพวกพ้อหรือบริวาร แต่มันคือ “ความสุขกายและสบายใจ” ไม่ได้หมายความว่าเงินไม่สำคัญ การดำรงชีวิตเกือบทุกอย่างต้องใช้เงิน แต่กับบางคนในการดำรงชีวิตไม่ต้องใช้เงิน แค่เรามีพื้นที่เล็กๆ เพียงพอที่จะมีพื้นที่ปลูกข้าว ขุดสระเลี้ยงปลา พื้นที่เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ และพื้นที่ปลูกผัก ปลูกพืชผลไว้รับประทาน มันก็เป็นชีวิตที่แทบจะไม่ได้ใช้เงินเลย
อาหารสามารถหาได้ตามธรรมชาติ ไม่ต้องเสียเงินซื้อ “การใส่ไซ” เป็นการวางกับดักจับปลา ที่ชาวบ้านมักจะทำกันในช่วงที่ข้าวเริ่มตั้งท้อง กำลังจะออกร่วง จะเป็นช่วงที่ปลาในท้องนาจะมีเยอะมาก ยิ่งพื้นที่ไหนทำนาด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี พื้นที่นั้นจะยิ่งมีปลาชุกชุม
ปลาที่ชาวบ้านสามารถหาได้จากธรรมชาติ เช่น ปลาช่อน ปลาหมอ ปลาสลิด ปลาดุก ปลาหลด ปลาไหล และปลาอื่นๆแล้วแต่พื้นที่ นอกจากปลาแล้ว ก็สามารถหาสัตว์อย่างอื่นได้อีก เช่น กบ ปลา กุ้ง และสัตว์น้ำตัวเล็กๆอีกมากมาย ที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้
ปลาธรรมชาติที่ใครหลายๆคนชอบทานมากที่สุด รวมถึงตัวแอดมินด้วย คือ “ปลาหลด” สามารถนำมาปลุงอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ต้มส้ม ผัดเผ็ด ฉู่ฉึ่ อื่นๆอีกมากมาย แต่เมนูที่แอดมินชอบมากที่สุด คือ การปรุงเมนูธรรมดา ที่แสนวิเศษ คือ ปลาหลดปิ้ง โรยเกลือหน่อย กลิ่นหอมมาก ปั้นข้าวเหนียวร้อนๆจ้ำแจ่วปลาร้า ตามด้วยปลาปิ้ง แซ่บหลายจ้า ใครแอบกลืนน้ำลายเหมือนแอดบ้างเอ่ย
นอกจากบรรยากาศตอนเช้าที่แสนจะสดชื่นแล้ว บรรยาการตอนกลางคืนก็เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน การใช้ชีวิตอยู่บ้านนอก อาชีพหลักของเขาก็คือ “เกษตรกร” เช้าๆตีสี่ตีห้าก็จะครึกครื้นกันแล้ว เขาเลือกที่จะออกไปทำงานตอนเช้าๆ สายๆแดดร้อนก็กลับมาพักผ่อน ช่วงบ่ายแดดเริ่มอ่อนลง เขาก็กลับไปทำงานอีกครั้ง การทำงานที่ไม่ต้องมีใครมาสั่ง ไม่ต้องมีใครมาบอกว่าวันหนึ่งต้องทำอะไรบ้าง วันนี้อยากทำก็ไป พรุ่งนี้อยากพักก็หยุด ทำงานเสร็จเหนื่อยล้าก็กลับมาพักผ่อนที่บ้าน สบายใจ นี่แหละที่เขาเรียกว่า “บ้านนอก วิถีชนบท วิถีแห่งความสุข”
หากคุณอยากมีความสุขไปกับแอดมิน ฝากติดตามความสุขเล็กๆของเราได้ เพจครกไม้บ้านหลุกดอทคอม
หรือคุณอยากช็อปปิ้งสินค้าชุมชนคุณภาพ สามารถเลือกซื้อได้ที่ ร้านครกไม้บ้านหลุก